ปปง. ส่งคดีเสี่ยเปี๋ยงให้อัยการ และยึดอายัดทรัพย์สินคดีเครือข่ายไซซะนะ มูลค่ารวมเกือบ 200 ล้านบาท
พลตำรวจตรี ปรีชา เจริญสหายานนท์ รักษาราชการแทนเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน กล่าวว่า คณ0 ล้านบาท
วันที่ 8 ตุลาคม 2562 ะกรรมการธุรกรรมซึ่งมีการประชุมในวันนี้ มีมติให้เลขาธิการ ปปง. ส่งเรื่องเพิ่มเติมให้พนักงานอัยการเพื่อยื่นคำร้องขอให้ศาลแพ่งมีคำสั่งให้ทรัพย์สิน ที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดรายคดีกลุ่มบุคคลที่เกี่ยวข้องกับการทุจริตในโครงการรับจำนำข้าวและการระบายข้าว แบบรัฐต่อรัฐ รวมมูลค่า 168 ล้านกว่าบาท พร้อมดอกผล ตกเป็นของแผ่นดิน และมีมติยึดและอายัดทรัพย์สิน ที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดรายคดีเครือข่ายยาเสพติดไซซะนะ รวมมูลค่า 30 ล้านบาท
ทั้งนี้ การดำเนินการเกี่ยวกับทรัพย์สินของทั้ง 2 รายคดีดังกล่าว จากการสืบสวนและรวบรวมพยานหลักฐานพบว่า ในรายคดีกลุ่มบุคคลเกี่ยวกับการทุจริตโครงการรับจำนำข้าวฯ หรือรายคดีเสี่ยเปี๋ยงนั้น เป็นการกระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ และความผิดเกี่ยวกับการฉ้อโกงอันมีลักษณะเป็นปกติธุระซึ่งเป็นความผิดมูลฐานตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 โดยที่ผ่านมา สำนักงาน ปปง. ได้ดำเนินการกับทรัพย์สินในรายคดีดังกล่าวตั้งแต่ปี 2559 รวมจำนวน 14 ครั้ง มูลค่าทรัพย์สินที่มีการยึดและอายัดประมาณ 16,000 ล้านบาท และในการประชุมวันนี้คณะกรรมการธุรกรรมได้มีมติให้เลขาธิการ ปปง. ส่งเรื่องเพิ่มเติมให้พนักงานอัยการเพื่อยื่นคำร้องขอให้ศาลแพ่งสั่งให้ทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิด (ที่ดิน) จำนวน 58 รายการ พร้อมดอกผล รวมมูลค่า 168,033,850 บาท ตกเป็นของแผ่นดิน นอกจากนี้ คณะกรรมการธุรกรรมมีมติยึดและอายัดทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดในความผิดมูลฐานยาเสพติดเครือข่ายไซซะนะ จำนวน 75 รายการ เช่น รถยนต์ รถจักรยานยนต์ เงินสด เครื่องประดับ ทองคำแท่ง ทองรูปพรรณ โทรศัพท์มือถือ คอมพิวเตอร์ เป็นต้น รวมมูลค่าทรัพย์สินประมาณ 30 ล้านบาท
พลตำรวจตรี ปรีชาฯ กล่าวเพิ่มเติมว่า เพื่อเป็นการตัดวงจรอาชญากรรรมและตัดเส้นทางทางการเงินของผู้กระทำความผิด สำนักงาน ปปง. จะเน้นการสืบสวนขยายผล เพื่อยึดทรัพย์สินที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดในคดีต่างๆ อย่างต่อเนื่อง ให้เกิดความเข้มข้นและเกิดประสิทธิภาพ ประสิทธิผล ในการทำงาน เพื่อแก้ไขปัญหา ความเดือดร้อนของประชาชนและเพื่อความสงบสุข ความมั่งคงของประเทศชาติต่อไป ภายใต้ปรัชญาการทำงานที่ว่า “ทรัพย์สินใดเป็นของแผ่นดิน ทรัพย์สินนั้นต้องกลับคืนแผ่นดิน โดยไม่มีเงื่อนไข ด้วยกฎหมายฟอกเงิน” ทั้งนี้ หากพบเห็นบุคคลใดเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิด หรือแอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่สำนักงาน ปปง. เพื่อขอเอกสารหรือตรวจค้นบริษัทหรือบ้านพัก โปรดอย่าหลงเชื่อ ขอให้โทรแจ้งหรือสอบถามได้ที่สายด่วน ปปง. 1710 หรือผ่านทางคิวอาร์โค้ด