จากการต่อสู้เชิงสัญลักษณ์ย้อนกลับมาสู่โลกความเป็นจริง เปิดใจ “อานนท์ แสนน่าน” ผู้ริเริ่มก่อตั้งหมู่บ้านเสื้อแดง

“อานนท์ แสนน่าน” ผู้ริเริ่มก่อตั้งหมู่บ้านเสื้อแดง อดีตประธานหมู่บ้านเสื้อแดงแห่งประเทศไทย ได้เล่าว่า ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ประโยคเหล่านี้เราได้ยินกันมาตั้งแต่เราจำความได้อย่าพยายามเติมเชื้อเพลิงให้คนไทยต้องแตกแยกทางความคิด ไม่ว่าคุณจะพยายามมากแค่ไหนก็ไม่มีวันสำเร็จแผ่นดินที่เราเกิดและเป็นไทยได้ทุกวันนี้ก็เพราะพระมหากษัตริย์ที่ท่านได้เสียสละเลือดเนื้อเพื่อปกป้องผืนแผ่นดินไทย สิ่งที่เราควรตระหนักคือความจงรักภักดีต่อสถาบัน

 


คนรุ่นหลังอย่างผมไม่จำเป็นต้องถูกซื้อตัว ความจงรักภักดีมันอยู่ในสายเลือดไม่จำเป็นต้องป้อนกล้วยแล้วถึงจะขยับ “โปรดอย่าเอาตัวตนของคุณมาชี้วัดคุณค่าของความเป็นคน” ผมพยายามเลี่ยงที่จะไม่พูดถึงประเด็นเหล่านี้! ไม่อยากพาดพิงถึงใคร ?
เพราะที่ผ่านมาหลายคนคงรู้สึก กระอักกระอ่วนกันพอสมควรกับพฤติกรรมของคนรุ่นลูกหลานที่มีแนวความคิดที่เปลี่ยนไปการกล้าแสดงออกเป็นสิ่งที่ดีแต่บางครั้งก็ดูไม่เหมาะสม คำพูดเป็นนายก็ต่อเมื่อเราลั่นวาจาออกไป อย่าเห็นเป็นเรื่องคะนองปากเพราะเรื่องบางเรื่องเราก็ไม่ควรพูดจาพาดพิง เห็นผู้ใหญ่หลายคนแสดงความกังวลก็ตักเตือนกันไปก็กลับถูกมองเป็นไดโนเสาร์ บ้างก็ถูกมองว่าเป็นสลิ่ม เพราะโลกของเรามันหมุนเร็วเกินไปจนบางครั้งเราเองก็ตามไม่ทัน


ถึงคำตอบจะออกมาในรูปแบบใดคนที่มีความคิดเห็นต่างก็ไม่ยอมรับกันอยู่ดี..หลายคนคงเคยได้ยินได้ฟัง ถึงการต่อสู้ในรูปแบบเชิงสัญลักษณ์ของ “หมู่บ้านเสื้อแดงเพื่อประชาธิปไตย” ที่มีการปักหมุดและขยับขยายจากหมู่บ้าน ตำบล อำเภอ และกลายเป็นจังหวัด และขยับขยายไปครึ่งค่อนประเทศทั่วทุกภูมิภาค ที่ผ่านมาผมเดินสายควบคู่ไปกับการส่งเสริมอาชีพรับรู้และสัมผัสกับความจริง! ที่บางครั้งคนธรรมดาอย่างเราๆ ก็ยังสามารถช่วยเหลือเพื่อนพ้องน้องพี่อะไรได้ ไม่มากก็น้อย..ที่ผ่านมาผมไม่ได้ต้องการเรียกร้องตำแหน่ง หรือ”สู้แล้วรวย” แล้วปิดตัวเอง!หนีหายไปไหน? ยังคงสนับสนุนอาชีพโดยเฉพาะการเพาะเห็ดที่ผมเคยมีความรู้มาบ้าง! ก็สามารถถ่ายทอดให้กับมวลชนได้มีอาชีพเสริม แบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายไปได้บ้างไม่มากก็น้อย


“อานนท์ แสนน่าน” เล่าอีกว่า จากสถานการณ์ตอนนี้ใครจะเชื่อ ! หรือไม่เชื่อ ! ไม่ใช่ประเด็นสำคัญ! เพราะผมมองว่ามวลชนที่อยู่กับผมต้องมีชีวิตและความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ไม่ต้องเสียน้ำตาให้กับอดีตที่ผ่านมา..เราทุกคนเหน็ดเหนื่อยและรู้สึกอ่อนล้าเมื่อต้องพูดถึงเรื่องราวที่ผ่านมา! บางชีวิตที่เหมือนตายทั้งเป็น! บางคนติดคุกบางคนลี้ภัยบางคนหลบหนีคดี ครอบครัวต้องพลัดพรากจากกัน ผมเป็นคนหนึ่งที่ถูกกระทำ!”แต่ก็ไม่เคยปริปากบอกใคร? เพราะรู้ดีว่าเส้นทางสายนี้ตัวเรากำหนดเอง!! ที่ผ่านมาถือว่าเป็นเพียงฝันร้าย!..เมื่อลืมตาตื่นชีวิตก็ต้องก้าวเดินไปต่อ
เมื่อลมเปลี่ยนทิศ! ทุกชีวิตที่เคยร่วมต่อสู้ก็ยังคงอยู่ เพื่อเป็นกำลังใจให้กันและกัน ผมรู้สึกโชคดีที่มีเพื่อนพ้องน้องพี่ไม่เคยทอดทิ้งให้ผมต้องต่อสู้อยู่เพียงลำพัง!!


ถ้าหากการออกมาแสดงจุดยืนว่า “เรารักสถาบัน”..คำพูดไม่กี่คำ แต่ทำไมคนบางคนกลับพยายามตีความหมายกันไปต่างๆ นานา
“เรารักพระองค์ท่าน”..มันไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่หรือต้องถูกใครมาบังคับ เราคือคนไทยการจะรักชาติ รักแผ่นดิน มันไม่ใช่เรื่องแปลกตรงไหน เรายอมที่จะเป็น “เสื้อแดงรักษาพระองค์” ยังดีกว่าคนที่มีความคิดล้มล้างสถาบัน

Related posts